ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า (Privacy Notice for Customer)
ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับลูกค้า (Privacy Notice for Customer)
บริษัท มี แคปปิตอล ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัทฯ” ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมั่นใจได้ว่าบริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองและปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ตลอดจนแจ้งให้ทราบถึงสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีรายละเอียดดังนี้
ข้อ 1 ขอบเขตการบังคับใช้
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้บังคับกับบุคลที่เป็นคู่ค้า หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือบริการให้แก่บริษัทฯ ไม่ว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทฯ หรือไม่ เช่น คู่สัญญา ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้ความหมายรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฎในเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทฯ กับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทฯ ด้วย
ข้อ 2 ข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 “ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขใบอนุญาตขับขี่ เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ที่อยู่อีเมล (email address) ทะเบียนรถยนต์ IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึง ตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคล หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) ที่ใช้ในการทำงาน ที่อยู่อีเมล (email address) กลุ่มของบริษัท เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีกโดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น
2.2 “ข้อมูลส่วนบุคคลลักษณะพิเศษ” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ซึ่งบริษัทฯ ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลลักษณะพิเศษต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือในกรณีที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายอนุญาต
ข้อ 3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
(1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปีเกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ สถานภาพสมรส ประวัติการศึกษา เป็นต้น
(2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ตำแหน่งที่อยู่ (Geolocation)
บัญชีโซเชียลมีเดีย เป็นต้น
(3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น
(4) ข้อมูลบุคคลที่สาม เช่น คู่สมรส บุตร ญาติพี่น้อง ข้อมูลผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
(4) การบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด CCTV
(5) ข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถที่เช่าซื้อ เช่น เลขตัวถัง หมายเลขรถ เลขเครื่องยนต์ เลขทะเบียน เป็นต้น
กรณีบริษัทฯ ได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือนำข้อมูลออกจากบัตรประจำตัวประชาชนด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตัวตนในการก่อ
นิติสัมพันธ์ทางกฎหมาย และ/หรือการทำธุรกรรมใด ๆ กับบริษัทฯ ข้อมูลที่ได้รับจะมีข้อมูลศาสนาด้วย
ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลลักษณะพิเศษ บริษัทฯ ไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลลักษณะพิเศษจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ยกเว้นในกรณีที่บริษัทฯ ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยชัดแจ้ง ทั้งนี้บริษัทฯ จะกำหนดวิธีการจัดการตามแนวทางปฏิบัติและเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลบุคคลที่สามที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านเป็นผู้ให้ข้อมูลกับบริษัทฯ เช่น คู่สมรส บุตร บิดา มารดา สมาชิกในครอบครัว บุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ ซึ่งบริษัทฯ ใช้ข้อมูลเพื่อการค้ำประกัน การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน หรือเพื่ออ้างอิงข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่บุคคลที่สามดังกล่าว เพื่อให้รับทราบประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวหากจำเป็น เว้นแต่มีข้อกำหนดทางกฎหมายอื่นตามกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามให้กับบริษัทฯ
โดยไม่ต้องขอความยินยอม
บริษัทฯ จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ (ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ กล่าวคือ อายุไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรสหรือกรณีอื่นตามที่กฎหมายกำหนด) คนเสมือนไร้ความสามารถ คนไร้ความสามารถ และไม่อนุญาตให้บุคคลดังกล่าวสมัครเพื่อใช้หรือซื้อผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ หากไม่ได้รับความยินยอมหรือหากไม่ได้อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใด ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ทราบว่า ได้มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลเหล่านี้ โดยมิได้รับความยินยอมและโดยไม่ได้อาศัยฐานทางกฎหมายอื่นใด บริษัทฯ จะดำเนินการลบข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทันทีที่บริษัทฯ ทราบถึงกรณีดังกล่าว และอาจจำเป็นต้องหยุดให้บริการบุคคลเหล่านี้ เว้นแต่กรณีที่บริษัทฯ อาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือ ฐานทางกฎหมายอื่นนอกเหนือจากความยินยอมได้
ข้อ 4 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคค
4.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ โดยตรง จากการที่เจ้าของข้อมูลได้ทำการติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ เพื่อสอบถามข้อมูล ให้ความเห็น คำติชม หรือส่งข้อร้องเรียน ผ่านทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ อีเมล หรือเพื่อใช้บริการจากบริษัทฯ และเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ การเสนอขายสินค้าหรือรับจ้างหรือให้บริการแก่บริษัทฯ การเข้าร่วมกิจกรรมทางการตลาดหรือกิจกรรมอื่น ๆ
4.2 ข้อมูลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการอื่น ๆ ตามสัญญา เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ หรือบริการของบริษัทฯ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
4.3 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมาย หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทฯ เช่น การเชื่อมโยงบริการดิจิทัลของหน่วยงานของรัฐในการให้บริการเพื่อประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเอง รวมถึงจากความจำเป็นเพื่อให้บริการตามสัญญาที่อาจมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนบุคคลกับหน่วยงานคู่สัญญาได้
ข้อ 5 วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยมีวัตุประสงค์ภายใต้ฐานในการประมวลผลข้อมูล (1) ฐานการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเริ่มต้นทำสัญญาหรือการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่าน (2) ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท (3) ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก (4) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ/หรือ (5) ฐานประโยชน์สาธารณะ สำหรับการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ หรือฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอนุญาต แล้วแต่กรณี เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ลำดับ | วัตถุประสงค์ | ฐานทางกฎหมาย |
1 | เพื่อดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา เพื่อเข้าทำสัญญาและจัดการกับความสัมพันธ์ทางสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อบริหารจัดการบัญชีของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและเพื่อดำเนินธุรกรรมทางการเงินและธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน การคืนเงิน การออกใบสำคัญรับเงิน ใบเสร็จ ใบแจ้งหนี้ | ฐานสัญญา |
2 | การติดต่อสื่อสารกัยพันธมิตรทางธุรกิจเกี่ยวกับสินค้า บริการ และโครงการต่างๆ ของบริษัทฯ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การติดต่อสื่อสารผ่านการส่งเอกสาร การตอบคำถาม การตอบกลับคำขอหรือการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการ | ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
3 | เพื่อขึ้นทะเบียนคู่ค้า ประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและพันธมิตรทางธุรกิจ การยืนยันตัวตนและสถานะการเป็นพันธมิตรทางธุรดิจ การตรวขสอบสถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติในรูปแบบอื่นๆ หรือการประเมินความเสี่ยงสำหรับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและพันธมิตรทางธุรกิจ (รวมถึงการตรวจสอบข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะจากหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และ/หรือ จากบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของบริษัทฯ) การออกคำขอเสนอราคาและประมูลราคาการเข้าทำสัญญากับท่านหรือพันธมิตรทางธุรกิจการประเมินการบริหารงานของท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ | ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
4 | การงานแผน การดำเนินการ และการบริหารจัดการความสัมพันธ์และสิทธิทางสัญญากันพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การพิจารณษแต่งตั้ง ยกเลิกหรือมอบอำนาจให้พันธมิตรทางธุรกิจสำหรับการทำธุรกรรมต่าง ๆ หรือการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การประมวลผลการชำระเงิน การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การตรวจสอบบัญชี การออกใบเรียกเก็บเงิน และการเก็บเงิน การจัดการให้มีการขนส่งและจัดส่ง การให้บริการสนับสนุน | ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
5 | การยืนยันตัวตนและการควบคุมการเข้าถึงตามที่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบดูแลระบบ อุปกรณ์และอินเตอร์เน็ต การรักษาความมั่นคงปลอดภัย ทางดิจิทัล การป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม รวมถึงการจัดการความเสี่ยงและการป้องกันการฉ้อโกง การรายงานอุบัติเหตุ | ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
6 | การยุติข้อพิพาท การบังคับใช้สัญญา การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การก่อตั้ง การใช้ หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย รวมถึงการมอบอำนาจ | ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
7 | เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคาร สถานที่ และสถานีบริการน้ำมันของ บริษัทฯ รวมถึงการแลกบัตรก่อนเข้าบริเวณพื้นที่ดังกล่าว การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อกับ บริษัทฯ หรืออาคาร สถานที่ และสถานีบริการน้ำมันของ บริษัทฯ ด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) | ฐานความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย |
8 | เพื่อขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนด และการประสานงานหรือการติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาล ศาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น กรมสรรพากร สำนักงานตำรวจแห่งชาติและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) รวมถึงการสืบสวน การร้องเรียน และ/หรือ การป้องกันอาชญากรรมหรือการฉ้อโกง | ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาหรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บริษัทฯ อาจไม่สามารถพิจารณาเข้าทำธุรกรรม หรือบริหารจัดการตามสัญญากับท่านได้ (ตามแต่กรณี)
ข้อ 6. การใช้และการเปิดเผยข้อมูล
ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในหนังสือแจ้งฉบับนี้ บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้
6.1 ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีการใช้ เปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ภายในบริษัทฯ เฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามความจำเป็นและเหมาะสม
6.2 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอก กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กรมบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นต้น
6.3 บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถามเพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ และเพื่อที่จะได้ให้บริการหรือจัดหาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน บริษัทรับประกันภัย บริษัทตรวจสอบภายใน และผู้ตรวจสอบบัญชี เป็นต้น
ข้อ 7. คุกกี้และวิธีการใช้คุกกี้
เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัทฯ จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลบางประการ โดยอัตโนมัติผ่านการใช้คุกกี้
คุกกี้ คือ ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงกับคอมพิวเตอร์ เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเยี่ยมชมเว็บไซต์ และคุกกี้จะจัดเก็บหรือติดตามข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เว็บไซต์และนำมาใช้ในการวิเคราะห์กระแสความนิยม (Trend) การบริหารจัดการเว็บไซต์ ติดตามการเคลื่อนไหวการใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ หรือเพื่อจดจำการตั้งค่าของผู้ใช้บริการ คุกกี้บางประเภทนั้น มีความจำเป็น (Necessary cookie) เนื่องจากหากปราศจากคุกกี้ที่จำเป็นประเภทนี้แล้ว หน้าเว็บไซต์อาจจะไม่สามารถใช้การได้อย่างเหมาะสม และคุกกี้ประเภทอื่น ๆ จะทำให้บริษัทฯ สามารถปรับปรุงประสบการณ์การเข้าใช้เว็บไซต์ ปรับแต่งเนื้อหาตามความต้องการของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และทำให้การเยี่ยมชมเว็บไซต์สะดวกมากขึ้น เนื่องจากคุกกี้จะจดจำชื่อผู้ใช้ (ในวิธีการที่ปลอดภัย) รวมทั้งจดจำการตั้งค่าทางภาษาของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยปกติอินเตอร์เน็ตเบราว์เซอร์ส่วนใหญ่จะตั้งค่าให้ระบุว่าจะยอมรับคุกกี้หรือไม่ หากเลือกไม่ให้มีการติดตามโดยคุกกี้ หรือลบคุกกี้ออกไป อาจมีผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ และหากไม่มีการเก็บคุกกี้ การใช้งานฟังก์ชันหรือเว็บไซต์บางส่วนอาจถูกจำกัด นอกจากนี้ บุคคลภายนอกอาจใช้คุกกี้ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ เพื่อนำเสนอโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับความสนใจของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามประวัติกิจกรรมการของเข้าชมเว็บไซต์ บุคคลภายนอกเหล่านี้ อาจเก็บรวบรวมประวัติหรือข้อมูลอื่นเพื่อให้ทราบว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าถึงเว็บไซต์อย่างไร และเว็บเพจที่เข้าไปเยี่ยมชมหลังจากที่ออกจากเว็บไซต์ของบริษัทฯ ข้อมูลที่รวมรวมผ่านระบบอัตโนมัติเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจตกอยู่ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวหรือนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกเหล่านั้นได้เช่นกัน บริษัทฯ จึงขอแนะนำให้อ่านนโยบายความเป็นส่วนตัว หรือนโยบายการใช้คุกกี้ของบุคคลภายนอกดังกล่าวเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วย
ข้อ 8. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
8.1 ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
8.2 หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้บริษัทฯ ทราบเพื่อให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจเพิกถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โดยแจ้งให้บริษัทฯ ทราบ
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพิกถอนความยินยอมการที่ได้ให้แก่บริษัทฯ เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอันเนื่องมาจากเหตุผลหรือวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่สำหรับการดำเนินการด้านการตลาด บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ หรือบริการ หรือบริหารจัดการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือความสัมพันธ์ หรือบัญชีของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีกับบริษัทฯ ได้ ซึ่งอาจส่งผลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเสียประโยชน์ในการใช้บริการของบริษัทฯ ในระดับเดียวกับกรณีที่ได้ให้ความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบริษัทฯ
ข้อ 9. การส่งหรือเปิดเผยข้อมูลไปต่างประเทศ
กรณีบริษัทฯ อาจจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ในการให้บริการ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ส่งหรือโอนไป มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเพียงพอตามมาตรฐานสากล หรือดำเนินการตามเงื่อนไขเพื่อให้สามารถส่งหรือโอนข้อมูลนั้นได้ตามกฎหมาย ได้แก่
1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ บริษัทฯ ต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
2) ได้แจ้งให้ท่านทราบและได้รับความยินยอมจากท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐาน
การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ ตามประกาศรายชื่อประเทศที่คณะกรรมการคุ้มครองส่วนบุคคลประกาศกำหนด
3) เป็นการจำเป็นเพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญากับบริษัทฯ หรือเป็นการทำตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญานั้น
4) เป็นการกระทำตามสัญญาของบริษัทฯ กับบบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เพื่อประโยชน์ของท่าน
5) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือของบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
6) เป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
ข้อ 10. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในแบบแจ้งฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทฯ ยังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของ บริษัทฯ
ข้อ 11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอใช้สิทธิต่าง ๆ ได้ตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนดในข้อ 15. หรือ ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิดังต่อไปนี้
11.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent) ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บข้อมูลส่วนบุคคลบนฐานความยินยอม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
11.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ ได้
11.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ไว้กับบริษัทฯ ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
11.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับตนสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
11.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบข้อมูลส่วนบุคคลของตนตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัทฯ จะจัดให้มีการทำลายหรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้
11.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
11.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right) กรณีที่เจ้าของข้อมุลส่วนบุคคลเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทฯ มีอยู่นั้นไม่ถูกต้องหรือมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของตน เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของตนเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง
เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
11.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฯ ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
ข้อ 12. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้สามารถเข้าถึงได้โดยพนักงานเฉพาะรายหรือบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่หรือได้รับมอบหมายที่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้แล้วเท่านั้น ซึ่งบุคคลดังกล่าวจะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ อย่างเคร่งครัด ตลอดจนมีหน้าที่รักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนเองรับรู้จากการปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่ โดยบริษัทฯ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลทั้งในเชิงองค์กรหรือเชิงเทคนิคที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
นอกจากนี้ เมื่อบริษัทฯ มีการส่ง โอนหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าเพื่อการให้บริการตามพันธกิจ ตามสัญญา หรือข้อตกลงในรูปแบบอื่น บริษัทฯ จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความลับที่เหมาะสมและเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจะมีความมั่นคงปลอดภัยอยู่เสมอ
ข้อ 13. การเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก
ในการใช้บริการแอบพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของบริษัทฯ อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ บริษัทฯ พยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหาหรือมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าวและอยู่ภายใต้ ประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทฯ ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษาและปฏิบัติตามประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏในเว็บไซต์นั้น ๆ แยกต่างหากจากของบริษัทฯ
ข้อ 14. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
บริษัทฯ อาจแก้ไขปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราวอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และเมื่อมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น บริษัทฯ จะประกาศให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือแจ้งให้ทราบผ่านทางอีเมล
ข้อ 15. ช่องทางและวิธีการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล การขอใช้สิทธิ หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ เจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลสามารถติดต่อ บริษัทฯ ได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท มี แคปปิตอล จำกัด
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 455/9-11 ถนนพระรามหก แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
หมายเลขโทรศัพท์: 0-2613-9040-51
Website: www.meecapital.co.th
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 455/9-11 ถนนพระรามหก แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
หมายเลขโทรศัพท์ : 0-2613-9040-51 ต่อ 126 – 127
E-mail: DPO@meecapital.co.th